รถแบบไหนบ้างที่สามารถเคลมภาษีซื้อได้บ้าง
🚘 คำนิยามของรถยนต์แต่ละประเภท
ก่อนอื่นต้องแยกประเภทของรถยนต์ที่ใช้ในกิจการกันก่อน เพราะรถยนต์แต่ละประเภทจะนำมาใช้ประโยชน์ทางภาษีได้แตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากเป็น “รถยนต์นั่ง” หรือ “รถยนต์โดยสาร” ที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ให้พิจารณาจากนิยามความหมายตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ดังนี้
💠รถยนต์นั่ง คือ รถเก๋งหรือรถยนต์ที่ออกแบบเพื่อใช้สำหรับนั่งเป็นปกติวิสัย และให้หมายความรวมถึงรถยนต์ในลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น รถยนต์ที่มีหลังคาติดต่อเป็นเนื้อเดียวกันในลักษณะถาวร ด้านข้างหรือด้านหลังคนขับ มีประตูหรือหน้าต่างและมีที่นั่ง
💠รถยนต์โดยสาร คือ รถยนต์หรือรถตู้ที่ออกแบบเพื่อใช้สำหรับขนส่งคนจำนวนมาก รวมทั้งรถยนต์ในลักษณะทำนองเดียวกัน
💠รถยนต์กระบะ คือ รถยนต์ที่มีที่นั่งด้านหน้าตอนเดียวสำหรับคนขับ และตอนหลังเป็นกระบะบรรทุก ซึ่งเปิดโล่งจนถึงท้ายรถโดยไม่มีหลังคา ซื้อรถยนต์ในนามกิจการ
หากผู้ประกอบการเลือกที่จะซื้อรถยนต์ในนามกิจการ เพื่อนำมาใช้ในกิจการ ข้อพิจารณาทางภาษีเรื่องแรกที่ต้องนึกถึงก่อนคือ รถยนต์ที่ซื้อนั้นเป็นรถประเภทไหน เข้าข่ายอยู่ในรถยนต์ที่นั่งไม่เกิน 10 คน หรือมากกว่า 10 คน เป็นรถยนต์นั่ง รถกระบะ หรือรถยนต์โดยสาร เป็นต้น แล้วจึงนำไปจำแนกการนำไปใช้ประโยชน์ทางภาษี ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
💠ค่าใช้จ่าย เมื่อซื้อรถยนต์ในนามกิจการ สามารถนำค่าใช้จ่ายและต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อรถยนต์นั่งทั่วไป มาเป็นรายจ่ายหรือต้นทุนของสินทรัพย์ ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้ แต่ห้ามนำมูลค่าต้นทุนในส่วนที่เกินหนึ่งล้านมาคำนวณกำไรสุทธิ
💠ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากกิจการซื้อรถยนต์ที่นั่งเกิน 10 คน หรือรถกระบะที่เข้าเกณฑ์ จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางภาษีได้(เคลมภาษีซื้อได้) แต่ถ้าไม่เข้าตามเกณฑ์นี้ ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อรถยนต์นั่ง และการเช่า หรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่ายางรถยนต์ ค่าน้ำมันรถ ค่าอะไหล่ ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซม จะถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
💠ค่าเสื่อมราคา สำหรับค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ ตามกฎหมายสามารถหักค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าต้นทุนเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น โดยหักค่าเสื่อมราคาต่อปีสูงสุดได้ปีละ 200,000 บาท โดยจะต้องแบ่งหักเป็นค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 5 ปี
📍ทั้งนี้ รถยนต์ที่ซื้อเป็นเงินสดราคาเกิน 1 ล้านบาท ในส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท จะต้องนำมาบวกกลับในการคำนวณภาษีนิติบุคคลประจำปีของกิจการเนื่องจากไม่สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนเกินได้
ภาษีซื้อที่เกี่ยวกับรถยนต์ เคลม VAT ได้หรือไม่?
ตามประมวลรัษฎากรภาษีซื้อที่เกิดจากรถยนต์นั่งมีที่นั่งไม่เกิน 10ที่นั่งเป็นภาษีซื้อต้องห้ามไม่สามารถเคลมได้ซึ่งการจะดูว่ารถประเภทไหนเป็นรถยนต์นั่งมีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งหรือไม่นั้นหลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าจดทะเบียนเป็นรถขนส่งก็ใช้ได้เพราะไม่ใช่รถยนต์นั่ง แต่ตามประมวลรัษฎากรได้กำหนดไว้ว่ารถยนต์นั่งที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งนั้นจะต้องเป็นรถยนต์ตามความหมายของภาษีสรรพสามิตไม่เกี่ยวกับกฎหมายขนส่งดังนั้นจึงต้องไปดูว่าตามพิกัดอัตรภาษีสรรพามิตนั้น รถกระบะ 4 ประตู จัดอยู่ในรถประเภทไหนซึ่งแต่เดิมรถกระบะ 4 ประตู จัดอยู่ในรถประเภทไหน ซึ่งแต่เดิมรถกระบะ 4 ประตู(Double Cap) จัดอยู่ในประเภท 06.01 คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งดังนั้นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่สามารถเคลมได้
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/095/111.PDF
ปัจจุบันกรมสรรพสามิต ได้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตตอนที่ 6 สินค้ารถยนต์ สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู(Double Cab)ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและคุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดจากพิกัด 06.01 ว่าด้วย “รถยนต์นั่ง” เป็นพิกัด 06.03 ว่าด้วย “รถยนต์กระบะที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 กิโลกรัม และความจุกระบอกสูบไม่เกิน3,250 ลบ.ซม.” เป็นผลทำให้รถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและคุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดพ้นจากการเป็นรถยนต์นั่ง ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัตอัตราภาษีสรรพสามิตตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
ดังนั้นรถกระบะ 4 ประตูที่ได้มาหลังวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 ไม่ถือเป็นรถยนต์นั่งอีกต่อไปรายการต้องห้ามที่เกี่ยวกับรถยนต์นั่งทั้งหมดจึงไม่ต้องห้ามตามไปด้วย
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตตอนที่ 6 สินค้ารถยนต์ สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ต่อภาษีอากร มีดังนี้
1.ภาษีซื้อทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์กระบะที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 กิโลกรัม และความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ลบ.ซฒ. สามารถเคลมได้ ไม่ถือว่าเป็นรายจ่ายต้องห้ามไม่ว่าจะเป็นค่าซื้อรถกระบะ ค่างวดเช่าซื้อหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับรถเช่น ค่าน้ำมันรถกระบะค ค่าเบี้ยประกัน ค่าซ่อมแซม ฯลฯ เคลมภาษีซื้อได้ทั้งหมด ตามมาตรา 82/5(6) แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 2(1) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42)
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามลิงค์นี้เลยค่ะ : https://www.rd.go.th/publish/5206.0.html
2.ค่าเช่าสำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ก็ไม่มีเพดานที่ 36,000 บาท /คัน/เดือน หรือ 1,200 บาทต่อวันสามารถลงเป็นค่าเช่าได้ทั้งจำนวนตามที่จ่ายจริง ไม่มีส่วนที่ต้องบวกกลับในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (20) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 4(2) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 315) พ.ศ.2540
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ : https://www.rd.go.th/publish/5939.0.html
3.ต้นทุนสำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู การคำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้มาโดยการซื้อหรือเช่าซื้อ
- ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นต้นไป ไม่จำกัดมูลค่าต้นทุน ที่จำนวน 1,000,000 บาท สามารถตัดค่าเสื่อมราคาได้ทั้งหมดทั้งจำนวนไม่มีส่วนที่ต้องบวกกลับในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลเพราะส่วนที่เกิน 1,000,000 บาท ไม่เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้าม
- ก่อนวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 ยังคงจำกัดมูลค่าต้นทุนที่จำนวนไม่เกิน 1,000,000 บาท ตามมาตรา 65 ทวิ(2) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ : https://www.rd.go.th/publish/2369.0.html
ข้อสรุป
การเปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและคุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดตามข้อ 2 ของประกาศกรมสรรพสามิต เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไข และคุณลักษณะของรถยนต์กระบะสี่ประตู (Double Cab) ลงวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2562 จากพิกัดอัตรา 06.01 “รถยนต์นั่ง” เป็นพิกัด 06.03 “รถยนต์กระบะที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 กิโลกรัม” ส่งผลกระทบต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งส่วนของค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา และมูลค่าต้นทุนรถยนต์ในส่วนที่เกินกว่า 1,000,000 และการนำภาษีซื้อเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวมาเครดิตหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม นับแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นต้นมา
เพิ่มเติม : สำหรับรถจักรยานยนต์ก็ไม่ถือเป็นรถยนต์นั่งที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งเหมือนกัน ภาษีที่เกี่ยวข้องจังไม่ต้องห้ามเหมือนกับรถกระบะ 4 ประตูทุกประการ
อ้างอิง : ประกาศกรมสรรพามิต เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณลักษณะของรถยนต์กระบะสี่ประตู
รับจดทะเบียนบริษัท,รับทำบัญชี,รับจดทะเบียนบริษัท ราคาถูก,รับจดทะเบียนบริษัท ทั่วไทย,รับจดทะเบียน ออนไลน์,รับจดทะเบียนบริษัท ต่างชาติ,รับจดทะเบียนบริษัท ด่วน,รับจดทะเบียนบริษัท ร้านค้า,รับจดทะเบียนบริษัท คนเดียว , รับจดทะเบียนบริษัท ที่ไหน , รับจดทะเบียนบริษัท ช่วงโควิด-19 , รับจดทะเบียนบริษัท ท่องเที่ยว , รับจดทะเบียนบริษัท ก่อสร้าง , จดทะเบียนบริษัท ที่ไหนดี , จดทะเบียนบริษัท ทำอย่างไร