รับจดทะเบียนบริษัท 9,500 บาท
ราคารวม VAT7% ค่าบริการและค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว
จดทะเบียนบริษัท ราคาพิเศษ 9,500 บาท *** (ราคารวม VAT7%) ไม่มีจ่ายเพิ่ม
หมายเหตุ *** ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท หากทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ติดต่อพนักงานเพื่อสอบถามรายละเอียด
สิ่งที่ลูกค้าได้รับ
ฟรี จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ฟรี ออกแบบตรายางให้เลือก 3 แบบ
ฟรี ตรายางหมึกในตัว 1 อัน
ฟรี ไฟล์ตรายาง สำหรับนำไปใช้งาน (ไฟล์ AI)
ฟรี เอกสารสำหรับเปิดบัญชีธนาคาร
ฟรี แบบฟอร์มเอกสารทางบัญชี
ฟรี นามบัตรสำหรับออกใบกำกับภาษี
ฟรี คอร์สอบรมผู้ประกอบการใหม่ (มูลค่า 5,900 บาท)
ฟรี จัดทำบัญชี ฟรี 2 เดือน ***
ใบสำคัญจดทะเบียนพาณิชย์
หนังสือรับรองบริษัท
รายละเอียดวัตถุประสงค์บริษัท
รายงานการประชุมตั้งบริษัท
หนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2)
รายการจดทะเบียนจัดตั้ง (บอจ.3)
สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5)
ออกแบบเว็บไซต์ องค์กร/หน่วยงาน ราคาพิเศษ 5,000 บาท
*** หมายเหตุ
- เพื่อเป็นมาตราการช่วยเหลือผู้ประกอบการใหม่ ที่จดทะเบียนบริษัทช่วงโควิด-19 ระบาด
- เฉพาะลูกค้าที่จดทะเบียนบริษัทใหม่ ตั้งแต่ วันที่ 20 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2563 เท่านั้น
จดทะเบียนบริษัท รับจดทะเบียนบริษัท
ในการจดทะเบียนบริษัท ถ้าได้ดําเนินการทุกขั้นนตอนดังต่อไปนี้ ภายในวันเดียวกับวันที่ผู้เริ่มก่อการจัดทํา หนังสือบริคณห์สนธิ กรรมการจะจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนตั้งบริษัทไปพร้อมกันภายใน วันเดียวก็ได้
1. ผู้เริ่มก่อการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ร่วมกันจัดทําหนังสือบริคณห์สนธิ
2. จัดให้มีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นครบตามจํานวนหุ้นทั้งหมดที่บริษัทจะจดทะเบียน
3. ประชุมจัดตั้งบริษัท (โดยไม่ต้องออกหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท) เพื่อพิจารณากิจการต่างๆ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1108 โดยมีผู้เริ่มก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคนเข้าร่วมประชุม (มอบฉันทะให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนได้) และผู้เริ่มก่อการ และผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคน ให้ความเห็นชอบในกิจการที่ ได้ประชุมกันนั้น
4. ผู้เริ่มก่อการได้มอบกิจการทั้งปวงให้แก่กรรมการบริษัท
5. กรรมการได้เรียกให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น ใช้เงินค่าหุ้น โดยจะเรียกครั้งเดียวเต็มมูลค่าหรือไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของมูลค่าหุ้น ตามมาตรา 1110 วรรคสองก็ได้ และผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคนได้ชําระเงินค่าหุ้นเสร็จ เรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลที่ต้องใช้ในการ รับจดทะเบียนบริษัท
1. ชื่อของบริษัท (ตามที่ได้จองชื่อไว้) *ดูหลักเกณฑ์การจองชื่อนิติบุคคล*
2. ที่ตั้งสํานักงานแห่งใหญ่ / สาขา (ตั้งอยู่ ณ จังหวัดใด) พร้อมเลขรหัสประจําบ้านของที่ตั้งสํานักงาน,
E-mail และหมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทหรือกรรมการ
3. วัตถุที่ประสงค์ของบริษัทที่จะประกอบกิจการค่า *ดูหลักเกณฑ์การกําหนดวัตถุที่ประสงค์*
4. ทุนจดทะเบียน จะต้องแบ่งเป็นหุ้นๆ มีมูลค่าหุ้นเท่าๆ กัน (มูลค่าหุ้นจะต้องไม่ต่ํากว่า 5 บาท)
5. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และจํานวนหุ้นที่ผู้เริ่มก่อการจองซื้อไว้
6. ชื่อ ที่อยู่ อายุ สัญชาติ ของพยาน 2 คน
7. อากรแสตมป์ 200 บาท
8. ข้อบังคับ (ถ้ามี)
9. จํานวนทุน (ค่าหุ้น) ที่เรียกชําระแล้ว อย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน
10. ชื่อ ที่อยู่ อายุของกรรมการ
11. รายชื่อหรือจํานวนกรรมการที่มีอํานาจลงชื่อแทนบริษัท (อํานาจกรรมการ) *ดูตัวอย่างการกําหนดอํานาจกรรมการ*
12. ชื่อ เลขทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตพร้อมค่าตอบแทน
13. ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ และจํานวนหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละคน
14. ตราสําคัญ *ดูหลักเกณฑ์การกําหนดดวงตรา*
15. ที่ตั้งสํานักงานแห่งใหญ่สาขา
บริษัทจะไม่จดทะเบียนตราสําคัญของบริษัทก็ได้ หากว่าอํานาจกรรมการไม่ได้กําหนดให้ต้อง ประทับตราสําคัญด้วย
เสียงจากลูกค้าที่ใช้บริการจากเรา
"แนะนำเลยค่ะ คิดว่าจะยุ่งยาก ที่นี่ทำให้หมด แนะนำดีมาก"
"รวดเร็วดีมาก แก้ปัญหาต่างๆที่กังวลเรื่องหุ้นส่วนและภาษีใด้เยี่ยมมาก ทีแรกคิดว่าจะจดทะเบียนบริษัทอย่างเดียว เห็นมีโปรฯทำบัญชีฟรีเว็บไซต์ เลยให้ที่นี่ดูแลบัญชีไปเลย ยาวๆไป ที่เดียวจบจริงๆ"
"เคยจดกับเจ้าอื่นได้แค่ตรายางอันเดียว เจ้านี้ให้ของแถมเยอะจริงๆ"
"ดูแลดีมาก ไม่ต้องออกไปไหนเลย มีเอกสารมาให้เซ็นถึงที่ พอเสร็จก็เอาเอกสารมาส่งถึงที่"
"ให้คำปรึกษาได้ดีมาก กระจ่างเลย ของแถมเยอะ แต่ที่สำคัญคือคำแนะนำดีๆ บริการดีมาก ใช้บริการทำบัญชีที่นี้ด้วย แถมทำเว็บไซต์บริษัทให้ฟรีอีกต่างหาก"
รับจดทะเบียนบริษัท รับจดทะเบียน หจก รับทำบัญชี รับตรวจสอบบัญชี รับวางแผนภาษี รับวางระบบบัญชี ที่ปรึกษาบัญชีภาษี คอร์สเรียนบัญชีภาษี รับปิดงบการเงิน
Chonlatee Business Group
บริษัท ชลธี บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด
คือบริษัทฯ รับจดทะเบียนบริษัท รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี วางระบบบัญชี ที่มีคุณภาพ ซึ่งบริษัทฯ มีผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ ในการทำงาน มายาวนาน และมีทีมงานที่มีคุณภาพ พร้อมให้บริการท่านเสมอ
“ประสบการณ์ในการ รับจดทะเบียนบริษัท ที่ยาวนาน กว่า 10 ปี และยอดการดำเนิน จดทะเบียนบริษัท กว่า 1,000 บริษัท ต่อปี เป็นเครื่องยืนยันการทำงานแบบมืออาชีพของเราได้เป็นอย่างดี ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พร้อมทั้งคำปรึกษาแนะนำเพื่อให้งาน จดทะเบียนบริษัท เป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามหลักของกฎหมาย และเพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าได้ดำเนินไปด้วยความสะดวก มั่นคง และยั้งยืน”
ข้อดีของการใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทกับเรา
• ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเพิ่มเติม
• ไม่ผูกมัดบริการทำบัญชีรายเดือน
• ไม่ต้องเสี่ยงเดินทางเข้าพื้นที่แออัด ห่างไกล โควิด-19
• เรามีทีมงานมืออาชีพ ดำเนินงานแทนลูกค้าทุกขั้นตอน
• เจ้าหน้าที่มีประสบการณ์โดยตรงในงานจดทะเบียน
• มีทีมงานให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า
• จัดทำเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย
• มีอบรมเรื่องบัญชี ภาษี สำหรับผู้ประกอบการใหม่
• รับจดทะเบียนบริษัท ห่างไกล โควิด-19
สกลนคร หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองหนองหาน" เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้จังหวัดสกลนครยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญและหลากหลายในด้านต่างๆโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรมทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น และเป็นจังหวัดศูนย์กลางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และศูนย์กลางทางการศึกษา อันเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาขนาดใหญ่ใน กลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร)
คำขวัญประจำจังหวัด : พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม
ตราประจำจังหวัด : รูปพระธาตุเชิงชุม เบื้องหลังเป็นหนองหาร
ต้นไม้ประจำจังหวัด : อินทนิล (Lagerstroemia speciosa)
ดอกไม้ประจำจังหวัด : อินทนิล
สัตว์น้ำประจำจังหวัด : ปลากาหรือปลาอีก่ำ (Labeo chrysophekadion)
ประวัติศาสตร์
สกลนคร เป็นแหล่งธรรมะ มีปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาหลายแห่ง เช่น พระธาตุเชิงชุม พระธาตุดูม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระธาตุศรีมงคล พระธาตุภูเพ็ก และมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม และหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น
จังหวัดสกลนครตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์บริเวณแนวทิวเขาภูพาน อำเภอวาริชภูมิ ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ชุมชนโบราณในพื้นที่จังหวัดสกลนครอยู่ร่วมสมัยเดียวกับอารยธรรมบ้านเชียงในจังหวัดอุดรธานี จากการสำรวจแหล่งชุมชนโบราณในพื้นที่แอ่งสกลนคร บริเวณลุ่มแม่น้ำสงครามครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอวาริชภูมิ อำเภอพังโคน อำเภอวานรนิวาส อำเภอพรรณานิคม และรอบ ๆ หนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร พบแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์จำนวน 83 แห่ง ชุมชนโบราณของแอ่งสกลนครนี้มีอายุประมาณ 600 ปีก่อนพุทธกาลจนถึงพุทธศตวรรษที่ 8 (ระหว่าง 3,000-1,800 ปีมาแล้ว) จากหลักฐานการค้นพบต่าง ๆ ของที่นี่พบว่า ชุมชนโบราณในแอ่งสกลนครได้มีการรวมตัวกันเป็นสังคมขนาดใหญ่และอาจจะพัฒนาเป็นสังคมเมืองในสมัยต่อมา
สกลนครเดิมชื่อ เมืองหนองหานหลวง แห่งอาณาจักรขอมโบราณ โดยขุนขอมราชบุตรเจ้าเมืองอินทปัฐนคร ซึ่งได้อพยพครอบครัวและบ่าวไพร่มาจากเมืองเขมร มาสร้างเมืองใหม่ที่ริมหนองหานหลวง บริเวณท่านางอาบ ปัจจุบันเรียกว่าท่าศาลา อำเภอโคกศรีสุพรรณ มีเจ้าปกครองเรื่อยมาจนสิ้นสมัยพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ เมื่อเกิดฝนแล้งทำให้ราษฎรอพยพไปเมืองเขมร เมืองหนองหานหลวงจึงร้างอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นถึงพุทธศตวรรษที่ 19 เมื่อสกลนครอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "เชียงใหม่หนองหาน" หรือเมืองสระหลวงหลังจากนั้นเมืองสกลนคร คงอยู่ใต้การปกครองกันไปมา ระหว่างอาณาจักรล้านช้างกับอาณาจักรสุโขทัย และไม่ค่อยมีบทบาททางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นนัก จนมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้คนกระจัดกระจายเป็นชุมชนเล็กๆทำมาหากินตามริมหนองหาน จ่ายส่วย อากรให้เจ้าแขวงประเทศราชศรีโคตรบอง เพื่อถวายต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองให้แก่ราชธานีกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น
จนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยครอบครัวมาตั้งบ้านเมืองดูแลรักษาองค์พระธาตุเชิงชุม จนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านธาตุเชิงชุมเป็น เมืองสกลทวาปี โดยแต่งตั้งให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี เจ้าเมืองสกลทวาปีคนแรก ต่อมาปี พ.ศ. 2369 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ เจ้าเมืองสกลทวาปีไม่ได้เตรียมกำลังป้องกันเมือง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพมาตรวจราชการเห็นว่าเจ้าเมืองกรมการไม่เอาใจใส่ต่อบ้านเมือง ปล่อยให้ข้าศึก (ทัพเจ้าอนุวงศ์) ล่วงล้ำไปเมืองนครราชสีมาได้โดยง่าย จึงสั่งให้นำตัวพระธานีไปประหารชีวิตที่หนองทรายขาว พร้อมกับกวาดต้อนผู้คนในเมืองสกลทวาปีไปอยู่ที่เมืองกบินทร์บุรีบ้าง เมืองประจันตคามบ้าง ให้คงเหลือรักษาองค์พระธาตุเชิงชุมแต่เพียงพวกเพี้ยศรีคอนชุม ตำบลธาตุเชิงชุม บ้านหนองเหียน บ้านจานเพ็ญ บ้านอ่อมแก้ว บ้านธาตุเจงเวง บ้านพราน บ้านนาคี บ้านวังยาง และบ้านพรรณา รวม 10 ตำบล เพื่อให้เป็นข้าปฏิบัติพระธาตุเชิงชุมเท่านั้น
ในสมัยต่อ ๆ มาได้มีราชวงศ์คำแห่งเมืองมหาชัยกองแก้วทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ขอสร้างบ้าน แปงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสกลทวาปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชวงศ์คำเป็นพระยาประเทศธานี (คำ) ในตำแหน่งเจ้าเมืองสกลทวาปี และทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็น เมืองสกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา จนถึง พ.ศ. 2435 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปกครองเมืองสกลนคร จึงเปลี่ยนเป็นรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคมณฑลเทศาภิบาล โดยส่วนกลางส่งพระยาสุริยเดช (กาจ) มาเป็นข้าหลวงเมืองสกลนครคนแรก และมีพระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรก
สกลนครมีอาณาเขตติดกับจังหวัดอื่น ๆ ดังนี้
ทิศเหนือ จรดจังหวัดบึงกาฬและจังหวัดหนองคาย
ทิศตะวันออก จรดจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนม
ทิศใต้ จรดจังหวัดกาฬสินธุ์
ทิศตะวันตก จรดจังหวัดอุดรธานี
การปกครองแบ่งออกเป็น 18 อำเภอ 125 ตำบล 1323 หมู่บ้าน
อำเภอเมืองสกลนคร
อำเภอกุสุมาลย์
อำเภอกุดบาก
อำเภอพรรณานิคม
อำเภอพังโคน
อำเภอวาริชภูมิ
อำเภอนิคมน้ำอูน
อำเภอวานรนิวาส
อำเภอคำตากล้า
อำเภอบ้านม่วง
อำเภออากาศอำนวย
อำเภอสว่างแดนดิน
อำเภอส่องดาว
อำเภอเต่างอย
อำเภอโคกศรีสุพรรณ
อำเภอเจริญศิลป์
อำเภอโพนนาแก้ว
อำเภอภูพาน