ทำธุรกรรมการเงินผ่าน Smartphone อย่างไรให้ปลอดภัย |
|
ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวเร็วมาก และถูกย่อส่วนให้เราเลือกใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย ในมือของเราเท่านั้นเอง แม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงิน
เราก็สามารถใช้งานได้ผ่าน Smartphone ทางธนาคารเองก็มีรูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ ให้เราได้เลือกใช้โดยไม่ต้องเข้าแถวต่อคิวรอใช้บริการ
แต่ผู้ใช้บริการอย่างเราๆ ก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันการโจรกรรมด้วยตนเองด้วยทางหนึ่ง
|
วันนี้ทีมงานชลธี มีวิธีง่ายๆ ที่เราจะสามารถใช้บริการธุรกรรมทางการเงิน บนสมาร์ทโฟน ได้อย่างปลอดภัยมาฝากกัน |
1.ดูแลโทรศัพท์มือถือของเราอย่างใกล้ชิด ผู้ใช้งานต้องพึงระลึกเสมอว่าความเสียหายจะเกิดขึ้น เมื่อโทรศัพท์มือถือของเราสูญหาย
ยิ่งเราเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในเครื่องมากเท่าไหร่ ยิ่งมีปัญหาตามมามากเท่านั้น ยังไม่รวมข้อมูลอื่น ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร เช่น อีเมล์
ซึ่งส่งผลโดยตรงกับองค์กรโดยตรง ดังนั้นผู้ใช้งานจึงต้องระมัดระวังข้อนี้มากเป็นพิเศษ
|
2.ตั้งค่าล็อคโทรศัพท์เคลื่อนที่เมื่อไม่ใช้งาน แม้ว่าการล็อคการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่จะไม่ได้เป็นการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ก็สามารถเป็นแนวทางเบื้องต้น ในการป้องกันจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งอาจเกิดจากการผู้ขโมย และเป็นแนวทางที่ผู้ใช้งาน สามารถทำได้ง่าย วิธีการดังกล่าว
สามารถทำได้ ด้วยการตั้งค่า PIN หรือรหัสผ่านบนโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่นั้นๆ |
3.สำรองข้อมูลไว้ในที่ปลอดภัย การสำรองข้อมูล ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่เราควรทำอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โทรศัพท์เคลื่อนที่หาย
ชำรุด หรือไม่สามารถใช้งานได้
ปัญหาแรกที่ตามมานอกจากการทำให้โทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ คือการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ เช่น ข้อมูลผู้ติดต่อ
(Contact Book) ซึ่งข้อดีของการสำรองข้อมูล คือนอกจากมีข้อมูลที่สามารถใช้งานได้ เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินแล้ว ยังทำให้เรารู้ขอบเขตของข้อมูลที่หายไปด้วย
เพราะบางคน เก็บข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคาร รหัสผ่าน ของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้ (e – Transaction) ทำให้เราสามารถระงับการใช้งานได้ทันที ก่อนที่
จะเกิดความเสียหาย โดยกระบวนการสำรองข้อมูล มีความต่างกันออกไป เราสามารถตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์ผู้ผลิตโทรศัพท์ หรือสอบถามศูนย์บริการที่ซื้อมา |
4.เก็บข้อมูลที่จำเป็น การเก็บข้อมูลใด ลงโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราควรพิจารณาถึงความสำคัญ และความเหมาะสมของข้อมูลที่จะจัดเก็บ ไม่ควรเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญมากๆ
เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต หรือรหัสผ่าน รหัสล็อกอินเข้าใช้งาน เพราะหากโทรศัพท์สูญหาย ข้อมูลต่างๆ จะถูกนำไปใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันผู้ให้พัฒนาโปรแกรม
ได้มีการพัฒนาระบบปฎิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่่ ให้สามารถจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น เราสามารถนำข้อดีเหล่านั้น มาปรับใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่
ที่เราใช้งานอยู่ และเลือกเก็บข้อมูลสำคัญได้ |
5. ปิดโหมดการเชื่อมต่อบลูทูธ หรือเชื่อมต่อจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก ปัจจุบันมี |
|
|
|
|